พ่อผมรับราชการครูแม่เป็นแม่บ้านที่ตั้งของบ้านตั้งอยู่ในที่ๆเกือบทุกครัวเรือนนั้นทำนาเกือบทั้งหมด แต่ผมทำนาไม่เป็นเวลาที่เขาคุยกันเรื่องทำนาผมก็มักที่จะไม่รู้เรื่อง ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องโรคภัยของข้าวเป็นต้น ที่บ้านของผมเคยทำนาแต่เมื่อผมเริ่มจำความได้ที่บ้านของผมก็เลิกทำนาไปเสียแล้ว ดั้งนั้นประสบการณ์การทำนาของผมจึงมาจากข้างๆบ้านเวลาที่เขาดำนา หรือว่าเกี่ยวข้าวผมก็จะไปช่วยเขา แต่ด้วยความเป็นเด็กก็จะช่วยได้ไม่มาก ส่วนมากจะไปเล่นมากกว่า pageqq
       พอเข้าเรียนในระดับมัธยมเพื่อนๆของผมก็ยังคงทำนาเช่นเดียวกัน ถ้ามีโอกาสดีๆบ้านใครเกี่ยวข้าวหรือว่าสีข้าวพวกเราก็จะแห่กันไป ทั้งไปช่วยงานก็ด้วยส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งนั้นก็เหมือนกับการไปเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน เพราะหลังจากที่ช่วยงานเสร็จก็จะมีการทำอาหารต่างๆกินกัน ไม่ว่าจะเป็นการต้มไก่ การย่างไก่เป็นต้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานมากๆ pageqq
       พอโตขึ้นมาในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อนๆส่วนมากก็ไม่มีใครทำนากัน โอกาสในการไปช่วยงานเหมือนตอนมัธยมจึงไม่ค่อยจะมี  จนผมจบการศึกษาไปทำงานที่อื่นและสุดท้ายก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านของตัวเอง และทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนผมก็จะต้องเดินทางผ่าน ทุ่งนา และยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวสองข้างของถนนนั้นก็จะเต็มไปด้วย ข้าวเปลือกที่ชาวนานั้นนำมาตากเอาไว้ แต่ที่น่าสงสารชาวนามากที่สุดในช่วงนี้นั้นก็คือ นอกจากราคาที่โรงสีต่างรับซื้อนั้นมีราคาที่ถูกลงมากๆแล้ว ยังมาเจอกับปัญหาของฝนตกอีกต่างหากเพราะว่าเวลาที่ชาวนาเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วนั้นข้าวเปลือกมักจะมีความชื่นตามมาจากการที่ฝนตกลงมา จะต้องนำข้าวที่ทำการเก็บเกี่ยวเสร็จนั้นมาทำการตากเสียก่อน เพื่อให้ความชื่นในข้าวนั้นลดน้อยลงไป ซึ่งระยะเวลาที่เขาตากกันส่วนใหญ่นั้นก็คือประมาณสามวัน โดยในสามวันนี้ชาวนาจะต้องลุ้นอย่างหนักว่าฝนจะตกลงมาหรือเปล่า เพราะว่าหากว่าฝนตกลงมา ที่เราตากมานั้นก็จะถือเป็นโมฆะทั้งหมด ซึ่งหากว่าฝนตกลงมาใส่ข้าวที่ตากเอาไว้รวมกันถึงสิบวันแล้วละก็ ข้าวนั้นก็จะเน่าเสีย ใช้การไม่ได้ที่ลงทุนลงแรงไปตลอดระยะเวลาของการทำนาในปีนี้ก็จะสูญเปล่า หากผมเป็นชาวนาผมก็คงเศร้าไม่น้อย ขนาดเรามีเงินเดือนทุกเดือนยังอยู่อย่างยากลำบากเลยหากว่าเม็ดเงินที่เขาต้องกินต้องใช้ตลอดปีนั้นมันต้องหายไปแล้วเขาจะเอาเงินจากที่ไหนมาใช้จ่ายในครอบครัว คิดแล้วเศร้าแทน
#krutum7



       ช่วงนี้ถ้าคุณเป็นคนๆหนึ่งที่ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กและก็ยังติดตามข่าวสารในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เป็นประจำแล้วละก็ ก็คงสังเกตุเห็นบางอย่างเหมือนกับที่ผมเห็น นั้นคือทุกวันนี้ทุกคนสามารถที่จะกลายเป็นคนดังได้ชั่วพริบตาเดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือว่าเรื่องที่ไม่ดีก็แล้วแต่ และข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์หรือว่าสื่อแบบ Offline ในทุกวันนี้ส่วนมากก็จะมีแหล่งที่มาของข่าวคือ SOcial Network postasset
       อย่างข่าวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้นั้นก็คือข่าวของดาราหนุ่มที่ขับรถมินิ คูเปอร์แล้วโดนรถมอเตอร์ไซต์มาชนท้าย จากเนื้อข่าวที่อ่านมาก็คือมอเตอร์ไซต์พยายามที่จะขี่ตามรถแท็กซี่ที่เบียดเขาเข้ามาจนต้องไปชนรถ ของดาราดัง คนดังกล่าว แล้วหลังจากนั้นเขาก็ขี่มอเตอร์ไซต์กลับมาปรากฏว่า โดนดาราหนุ่มทำร้ายโดยการชกเข้าไปที่หน้าหลายครั้งด้วยกัน ปรากฏว่ามีคนถ่ายคลิปเก็ปเอาไว้ได้ และโพสลง โซเชียลเน็ตเวิร์ก และมีชาวออน์ไลน์ให้ความสนใจความไปดูคลิปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แวะแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำดังกล่าว ซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่นั้นก็ไปในทางที่โจกตีถึงการกระทำของชายหนุ่มว่าการกระทำที่ปรากฏในคลิปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
postasset
       และผลที่ตามมาอย่างต่อเนื่องนั้นก็คือ ทำให้ดาราดังโดนถอดออกจากการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ทั้งหมด และมีการยกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา โดนยึดรางวัลที่เคยได้รับกลับคืน  postasset
       ประเด่นที่ผมจับได้จากเรื่องๆนี้นั้นก็คือ การที่เราทำอะไรก็แล้วแต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบนั้นผลที่จะตามมานั้นมีแต่จะเป็นไปในด้านลบเสียมากกว่าที่จะมีผลไปในด้านที่ดี ประเด่นที่สองหาเป็นสมัยก่อนข่าวแบบนี้เจ้าของเรื่องที่ก่อเหตุอาจจะไม่ได้รับผลกระทบและกลายเป็นที่โจมตีมากมายขนาดนี้ก็เพราะว่าสมัยก่อนการบันทึกภาพก็ยังเป็นเรื่องที่อยากแล้ว ส่วนมากข่าวที่ออกตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็มักจะเป็นข่าวที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกันแล้ว แต่สมัยนี้เกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิดทั้งกล้องที่ติดอยู่ในรถยนต์ส่วนบุคคลต่างๆและกล้องที่ติดอยู่ตามอาคารบ้านเรือนของประชาชนทั่วๆไปก็มีจำนวนมากเช่นเดียวกัน ประเด่นที่สามก็คือข่าวสมัยนี้จะเร็วและแรงเพราะว่าสื่อสามารถรับรู้ถึงความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ได้ ว่ามีความคิดเห็นไปในทิศทางใดและพวกเขาก็จะติดตามเรื่องนั้นๆมานำเสนออย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวความเป็นไปของเรื่องนั้นโดยตลอด กระแสจึงแรงและเร็ว
       เพราะฉะนั้นเรื่องที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้นั้นก็คือเวลามีปัญหาอะไรก็แล้วแต่เราควรที่จะตั้งสติและตัดสินปัญหาด้วยความรอบครอบให้คิดว่าถ้าสิ่งที่เราทำนั้นไปปรากฏอยู่หน้าสื่อเหมือนที่เราเห็นในวันนี้แต่แทนที่จะเป็นคนอื่นกับเป็นเรา ผลที่ตามมาจะเป็นยังไหง



       ทุกวันนี้โลกหมุนไปเร็วเหลือเกิน ทุกๆวันจะมีcontent  ออกมาใหม่ทุกวัน เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งข่าวที่เกิดขึ้นกันแบบรายวัน  หรือจะเป็นความรู้ต่างๆที่ผู้คนเลือกที่จะถ่ายทอดออกมาสู่ผู้คนทั่วไป ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆที่เกิดโอกาสให้  pageqq
       เราในฐานะผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กคนหนึ่ง ในแต่ละวันก็จะได้อ่านเรื่องราวต่างๆมากมายจากเพื่อนของเราเอง ซึ่งอาจจะเป็นข่าวที่ไม่เป็นทางการหนัก หรือว่าจากสื่อกระแสหลัก ก็จะเต็มหน้าเฟสบุ๊กของเราในทุกๆเช้ากันเลยทีเดียว
       แต่อยากถ้าว่าสิ่งที่เรารับเข้ามาในทุกๆวันนั้นมันได้ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ หรือเป็นเพียงการรับสื่อเข้าไปเพื่อสนองต่อความอยากรู้อยากเห็นของเราเพียงเท่านั้นเอง
       แล้วจะดีกว่าไหมถ้าวันนี้เราสามารถที่จะ นำสิ่งที่เรารู้นั้นไปเสนอให้กับคนอื่นๆได้โดยที่เราเองก็ได้รับค่าตอบแทนไปด้วย สนใจขึ้นมาแล้วละซิ ถ้าอย่างนั้นเราก็มาลองกันเลยว่าเราจะทำยังไหงกันบ้าง วันนี้ผมมีบริการมานำเสนอนั้นคือบริการของ pageqq ครับ ซึ่งเป็นเว็บไซต์เว็บหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เราสามารถสมัครสมาชิกได้ แล้วเราสามารถโพสสิ่งต่างๆที่เราต้องการไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะมีคนถามต่อว่าแล้วมันแตกต่างจากการโพสไปที่ เฟสบุ๊คอย่างไรละ ผมก็จะถามกลับว่าการที่เราโพสไปที่เฟสบุ๊กนั้นเราได้รับการแบ่งปันรายได้กลับมาหรือไม่ ซึ่งก็อาจจะมีคนถามกลับอีกว่าจะบ้าเหรอ เฟสบุ๊คเขาให้เราใช้บริการแบบฟรีๆมันก็ดีอยู่แล้วนะ ทำไหมจะต้องมาจ่ายเงินให้กับเราด้วยละ
       ผมขอบอกไว้ ณ  ตรงนี้เลยนะครับว่า เฟสบุ๊คนั้นรวยเป็นอันดับต้นๆของโลกโดยที่เฟสบุ๊คไม่ได้มีเนื้อหาอะไรของตัวเองเลย แต่ว่าเขานั้น เอาเนื้อหาของทุกๆคนมาเป็นแม่เหล็กเพื่อดึงให้คนอื่นๆเข้าใช้งาน และเปิดรับให้คนมาโฆษณากัน ส่งผลให้เขามีรายได้ระดับต้นของโลก โดยที่คนสร้าง content อย่างพวกเรานั้นไม่ได้อะไรตอบแทนเลย
       แต่เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งหดหู่ครับ เพราะว่าวันนี้ได้เกิดบริการ pageqq ขึ้นมาแล้วครับ ซึ่งเพจคิวๆจะช่วยจัดการเรื่องรายได้ให้กับเราจะนำเงินจากค่าโฆษณามาแบ่งปันให้กับทุกคนอย่างยุติธรรม ใครที่ทำมากก็จะได้ผลตอบแทนมากใครที่ใช้น้อยๆก็จะได้ผลตอบแทนน้อย ซึ่ง เราก็ไม่ได้เลิกเล่นเฟสบุ๊กหรือว่าโซเชียลอื่นๆนะครับเพียงแต่เราแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนิดหน่อย นำ content ของเรามาโพสที่เพกคิวๆก่อนแล้วค่อยแชร์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ เห็นไหมครับว่าผลลัพธิ์ที่ได้ยังคงเหมือนเดิมแต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมานั้นก็คือ รายได้ที่เราจะได้รับครับ

สนใจสมัครสมาชิก คลิ๊ก http://pageqq.co

บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก